พลัสฯ เผยศักยภาพคอนโดพัทยา-หัวหิน ยังเติบโต

พลัสฯ เผยศักยภาพ คอนโด พัทยาหัวหิน ยังเติบโต

 

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการ อสังหาริมทรัพย์ ครบวงจร พบสัญญาณการลงทุนภาค อสังหาริมทรัพย์ ขยายตัวจากกรุงเทพฯ สู่เมืองท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทยทั้งพัทยา และหัวหิน ได้ปัจจัยบวกจากการลงทุนระบบคมนาคมของภาครัฐ จากการเชื่อมต่อพัทยาสู่หัวหินทางเรือ เชื่อมต่อการเดินทางจากกรุงเทพฯ ทางรถไฟความเร็วสูง และโครงการทางพิเศษ ส่งผลให้อุปสงค์การท่องเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุด พบตัวเลขราคาขายคอนโดมิเนียมพัทยา สูงสุดอยู่ที่ 180,000 บาทต่อ ตร.ม. ราคาขายต่อช่วง 5 ปี เติบโตสูงสุดที่ 36% ขณะที่ คอนโดมิเนียม หัวหิน ราคาเสนอขายสูงสุดที่ 140,000 บาทต่อ ตร.ม. ผลตอบแทนการขายต่อสูงถึง 59%

นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารและจัดการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการสำรวจของพลัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่า อสังหาริมทรัพย์ในทำเลเมืองท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เช่น ในพื้นที่พัทยา และหัวหิน เนื่องจากภาครัฐได้พัฒนาระบบคมนาคมเชื่อมการเดินทางทั้งการลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินสู่ ภาคตะวันออก ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา โครงการรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกด้านตะวันตก ทั้งยังมีการเชื่อมโยงเมืองท่องเที่ยว 2 ฝั่งอ่าวไทยเข้าด้วยกัน โดยได้เปิดบริการเรือเฟอรีจากหัวหิน-พัทยา ตั้งแต่ต้นปี 2560 สามารถลดระยะเวลาการเดินทางจาก 5-6 ชั่วโมงทางรถยนต์ ให้เหลือเพียง 1 ชั่วโมง 40 นาทีเท่านั้น ซึ่งในอนาคต จะมีการขยายการเชื่อมโยงมายังท่าเรือกรุงเทพฯ นับเป็นการกระตุ้นทั้งด้านการท่องเที่ยว และดึงดูดการลงทุนไปในตัว น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวกระจายตัวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดอุปสงค์ด้านการท่องเที่ยว และความต้องการบ้านพักหลังที่ 2 เพิ่มมากขึ้น

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของพัทยาและหัวหิน ปัจจุบันพบว่าเติบโตขึ้นอย่างน่าสนใจ โดยในส่วนของพัทยา ปี 2560 พบอุปทานเสนอขายคอนโดมิเนียมถึง 55,641 ยูนิต ได้รับการตอบรับแล้วสูงถึง 85% เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จึงเหลือยูนิตคงค้างเพียง 8,496 ยูนิต ซึ่งคาดว่าจะขายหมดในเวลา 15 เดือน โดยราคาเฉลี่ยที่เสนอขายในทุกโซนพัทยาอยู่ที่ 95,000-100,000 บาทต่อตารางเมตร และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นทุกปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่าราคาเสนอขายเติบโตสูงถึง 28% ซึ่งคาดว่า หากมีโครงการใหม่ราคาจะเติบโตไปได้ถึง 100,000-150,000 บาท ด้านอุปสงค์พบว่า โครงการที่มีราคาเสนอขายมากกว่า 120,000 บาทต่อตารางเมตร มีอุปสงค์ขยายตัวสูงขึ้นทุกปี จากปี 2556-2560 โดยสูงขึ้นถึง 159% และยังพบโครงการระดับบนที่มีราคาขายสูงถึง 180,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรวมทั้งตลาด การตอบรับในช่วงเปิดตัวของโครงการเหล่านี้เคยสูงถึง 10 F ยูนิตต่อเดือนต่อโครงการ ซึ่งคาดว่าราคาเสนอขายยังจะเติบโตขึ้นได้อีก โดยเฉพาะพื้นที่แถวพัทยากลาง ที่เหลือพื้นที่พัฒนาโครงการน้อย และยังเป็นแหล่งรวมสีสันของเมืองพัทยา และมีราคาที่ดินสูงถึงตารางวาละ 400,000 บาท จึงเป็นไปได้ว่าในอนาคต ทำเลนี้จะกลายเป็นทำเลทอง ไม่เพียงเท่านี้ผลตอบแทนจากการขายต่อในแต่ละปีมีการเติบโตสูงราว 21-36% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

สำหรับตลาดปล่อยเช่ายังเติบโตดี ห้องชุดปล่อยเช่าให้ต่างชาติมีราคาเฉลี่ย 600-700 บาทต่อตารางเมตร โครงการแนวสูงจะได้รับความนิยม ผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 4-5% ต่อปี โดยผู้เช่ายังทำสัญญาเช่าระยะยาวต่อเนื่อง ซึ่งอย่างน้อยนิยมเข้าพักราว 2-3 เดือนต่อครั้ง ในปี 2560 จำนวนผู้เช่าเติบโตขึ้นถึง 54% ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่พัทยาเติบโตมาจากการท่องเที่ยวเป็นตัวผลักดันที่สำคัญ ข้อมูลจากเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา มีปริมาณนักท่องเที่ยวในชลบุรีกว่า 15 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน รายได้จากการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นโดยเฉลี่ย 17% หรืออยู่ที่กว่า 2 แสนล้านบาท พื้นที่พัทยาจึงเป็นอีกทำเลที่น่าลงทุน

ขณะที่ภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ทำเลหัวหินล่าสุดพบว่า อุปทานเสนอขายคอนโดมิเนียมในพื้นที่หัวหินและชะอำอยู่ที่ 11,641 ยูนิต มียอดตอบรับแล้ว 78% โดยในพื้นที่หัวหิน ราคาเสนอขายเฉลี่ยประมาณ 90,000 บาทต่อตารางเมตร แต่หากเป็นโซนใกล้ทะเล ราคาเสนอขายจะอยู่ในช่วง 91,000-96,000 บาทต่อตารางเมตร โดยพบราคาเสนอขายโครงการสูงถึง 140,000 บาทต่อตารางเมตร ในโครงการเลียบชายหาด สำหรับพื้นที่ศักยภาพอย่างโซนตัวเมืองหัวหิน และโซนใกล้ทะเล รวมถึงโซนเขาตะเกียบ ปัจจุบันพบอุปทานอยู่ที่ 4,274 ยูนิต มียอดตอบรับแล้ว 77% ทำให้ปัจจุบันเหลือยูนิตคงค้างเพียง 967 ยูนิตเท่านั้น โดยราคาเฉลี่ยของโซนนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 15% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

สำหรับพื้นที่หัวหินในภาพรวม ตลาด Resale ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา พบว่าราคาเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ผลตอบแทนการขายต่อสูงถึงราว 59% ส่วนการปล่อยเช่าก็ยังสร้างผลตอบแทนสูงราว 4-5% ต่อปี และมีผู้สนใจเข้าพักอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะช่วงเทศกาล หรือวันหยุดยาว ที่ต่างชาตินิยมมาพักอาศัยเฉลี่ยครั้งละ 1.5-3 เดือน และคนไทยที่ทำงานในหัวหิน นิยมทำสัญญาเช่าระยะยาว อัตราการพักอาศัยสูงถึง 86% ซึ่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี ปัจจัยที่สนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ของหัวหิน จะมาจากภาคการท่องเที่ยว ซึ่งหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของชาวไทย และต่างประเทศ และยังมีความปลอดภัยสูง เป็นเมืองคลาสสิกที่รวมเอาเอกลักษณ์ของยุคตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 มาผสานกับยุคปัจจุบันที่ห้อมล้อมด้วยความเจริญได้อย่างลงตัว นอกจากทะเลแล้ว ยังมีแลนด์มาร์กแห่งใหม่อย่างศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ที่ช่วยยกระดับการท่องเที่ยวขึ้นอีก โดยปีที่ผ่านมา มีปริมาณนักท่องเที่ยวในประจวบฯ จำนวนกว่า 4.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน

“การลงทุนในอสังหาฯ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมในพัทยา และหัวหิน นับว่ามีแนวโน้มดี และน่าจับตามองมากขึ้น เพราะเป็นทำเลที่มีโอกาสเติบโตอย่างน่าสนใจจากการเชื่อมโยงเมืองหลวง กับเมืองท่องเที่ยวฝั่งอ่าวไทย ตลอดจนเชื่อมเมืองท่องเที่ยวสำคัญในฝั่งอ่าวไทยเข้าด้วยกัน น่าจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไหลเวียนระหว่างกันได้มากขึ้น คาดว่าจะทำให้เกิดความต้องการซื้อมากขึ้น ทั้งซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อเพื่อการลงทุน เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงในอนาคต ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้การลงทุนในตลาดคอนโดคึกคักมากขึ้น”

 

ที่มา : mrgonline

เข้าร่วมการสนทนา

Compare listings

เปรียบเทียบ